วันพุธ, พฤษภาคม 12, 2010

ปูดแผนยิงแก๊ส สลบสลายม็อบคืนนี้ 31องค์กรประชาธิปไตยจี้เทือกมอบตัวตร.จบสวยๆ


แผนชั่วนายพลคอสเมติก-พลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ลูกป๋าและนายพลพันธมิตรเผยเข้าพบอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เสนอแผนรบเสื้อแดงเริ่มจากตัดน้ำตัดไฟและจำกัดการสูญเสียของผู้ชุมนุม ซึ่งเขาอ้างว่านายอภิสิทธิ์ยอมรับได้ และได้กลับลำมาแข็งกร้าวต่อเสื้อแดง

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
12 พฤษภาคม 2553

กอง เชียร์ฮาร์ดคอร์ของมาร์คปูดแผนปราบเสื้อแดงคืนนี้

หลังจากน ปช.ยื่นเงื่อนไขให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ผู้อำนวยการ ศอฉ.เข้ามอบตัวกับตำรวจ ไม่ใช่กับDSIแล้วจึงจะยุติการชุมนุม ช่วงสายวันนี้ศอฉ.ได้แสดงท่าทีกดด้นต่อผู้ประท้วง โดยระบุว่าเวลาเที่ยงคืนวันนี้จะมีการตัดน้ำตัดไฟที่ชุมนุม จากนั้นมีกระแสข่าวลือว่า ศอฉ.อาจจัดการสลายการชุมนุมในคืนวันนี้ ต่อเนื่องถึงพรุ่งนี้เช้า

หลังศอฉ.แสดงท่าทีแข็งกร้าวดังกล่าวนำไป สู่การแพร่กระจายข่าวลือในหมู่ผู้สนับสนุนรัฐบาลที่เป็นพวกฮาร์ดคอร์ขึ้น ตลอดช่วงบ่ายวันนี้

โดยกลุ่มฮาร์ดคอร์ที่สนับสนุนรัฐบาลได้พากันแพร่ กระจายข่าวทางface bookและทางอีเมล์ว่า

“ศอฉ.จะสลายการชุมนุม ภายในเที่ยงคืนนี้ !” โดยระบุว่า “ทีม ศอฉ.ได้ไปลาดตระเวณดูพื้นที่รอบใน มีทหารพร้อมบังเกอร์ โล่ เตรียมพร้อมจำนวนมาก บริเวณแยกมักกะสัน และราชปรารถ และกระจายโดยรอบเป็นหย่อมๆ !และส่าสุดข่าวตรงจากคนในทำเนียบ จะมีการปิดการจราจรรอบในกรุงเทพฯ ประมาณ 4 โมงเย็น ! และล่าสุดทางสินธร ขอให้ทุกคนออกจากตึกก่อน 5 โมงเย็น !ประมวลจากสถาณการณ์ทั้งหมด ทำให้วันนี้เป็นอีกวันที่อาจเกิดความรุนแรงได้ ดังนั้นขอให้ทุกคนรีบกลับบ้านด่วน ขอให้ทุกคนระวังและเดินทางโดยปลอดภัยทุกคน”


กลุ่ม ฮาร์ดคอร์ที่สนับสนุนรัฐบาล และเรียกร้องให้มีการปราบปรามผู้ประท้วง ยังได้ขยายข่าวนี้เพิ่มเติมว่า “สรุป ขั้นตอนต่างๆ หลังจากพ้น 24.00 ของคืนนี้ (12 พ.ค.)”

1) พ้น 24.00 น.วันที่ 12 พ.ค 53 ประกาศยกเลิกแผนปรองดอง เข้าเจรจาแกนนำครั้งสุดท้าย ตามคำสั่งศาล
2) ตีห้าครึ่งเริ่มปิดด่านเข้า-ออก ให้ออกได้อย่างเดียว
3) เตรียมการดับเพลิง ก่อการร้าย การปฐมพยาบาล หน่วยแพทย์ นักข่าว สื่อต่างๆ
4) ปิดกั้นการสื่อสาร สาธารณูประโภค อาหารทุกชนิด
5) ประกาศ สื่อสารให้คนที่ต้องการออก ออกได้ภายใน 6 ช.ม. มิฉะนั้นจะมีความผิด พรก. รอไปจนกว่า ผู้ชุมนุมลดลง ถึงจุดเข้าจับแกนนำ การ์ด และสลายการชุมนุม โดยใช้กำลังติดอาวุธ พร้อมรถหุ้มเกราะ


ระบุแผน ชั่วอาจใช้แก๊สสลบปราบผู้ชุมนุม

มีการเผยแพร่ข่าวทาง อินเตอร์เน็ตด้วยว่า แผนสลายการชุมนุมออกมาแล้ว จะกระทำโดยการใช้แก๊สสลบ(อาจเป็นแก๊สพิษ ยังไม่เป็นที่เปิดเผยCIA เอามาให้ลองใช้เพราะได้ใช้ในประเทศอิรัก) พร้อมนั้นได้จัดเบิกชุดป้องกันสารพิษ 3,000 ชุด เพื่อให้กำลังพลสวมใส่ขณะปฏิบัติการ ขณะนี้ได้เบิกจ่ายไปแล้วอยู่ระหว่างนำไปที่กองบัญชาการกวาดล้างชุมนุมเสื้อ แดงที่กรุงเทพการบัญชี คนลงนามอนุมัติแผนคือ นายสุเทพ

นายพล คอสเมติกพธม.เป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนกระหายเลือด

เป็นที่ น่าสังเกตว่าก่อนหน้าที่ศอฉ.ประกาศแผนตัดน้ำตัดไปที่ชุมนุม และมีข่าวแพร่กระจายเรื่องการปราบม็อบคืนนี้นั้น เมื่อค่ำวานนี้”นายพลคอสเมติก”หรือพลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์เนชั่นแชนัล กับนายกนก รัตน์วงศ์สกุล อ้างว่า
ได้ เข้าพบนายอภิสิทธิ์ และเสนอแผนการปราบผู้ชุมนุม ด้วยการให้ตัดน้ำตัดไฟ และทำอย่างอื่นอีก ซึ่งนายอภิสิทธิ์ก็เห็นด้วย

พล.อ. ปฐมพงษ์บอกด้วยว่าจริงๆ นายอภิสิทธิ์ต้องการยึดพื้นที่คืน แต่ทหารเสนอแผน ซึ่งนายอภิสิทธิ์เห็นแล้วตกใจ เพราะมีจำนวนที่คาดว่าจะมีคนตายและคนเจ็บเยอะ เลยไม่กล้าทำ พล.อ. ปฐมพงษ์จึงได้เสนอแผนของเขาไป และว่า จะมีคนบาดเจ็บจำนวนเท่าไร ซึ่งนายอภิสิทธิ์รับได้ นอกจากนั้นพล.อ. ปฐมพงษ์พูดว่า ถ้านายทหารปัจจุบันทำไม่ได้ก็ออกไปเสีย ตัวเองอาสารบคนเสื้อแดงเอง

ขณะเดียวกัน 31 องค์กรประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้

จดหมาย เปิดผนึกถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ ,องค์กรด้านกฎหมาย-ยุติธรรมและองค์กรสื่อสารมวลชน:รัฐจริงใจปรองดอง สุเทพต้องมอบตัวตำรวจ พีเพิลแชลแนลต้องมีเสรีภาพ

วิกฤต การเมืองไทย มีแนวโน้มสู่ความปรองดอง โดยรัฐบาลอภิสิทธิ์กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2553 ภายหลังการยุบสภา เป็นการคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศพึงปรารถนาอย่างยิ่ง

อย่างไร ก็ตาม ข้อเรียกร้องของแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)เพื่อให้นายสุ เทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้อำนวยการศอฉ.เข้ามอบตัวกับทางตำรวจมิใช่ดีเอสไอ ในฐานะเป็นผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากญาติวีรชนไพร่ที่ต้องสูญเสีย ชีวิตจากคำสั่งบัญชาการปราบปรามผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงของนายสุเทพ ตลอดทั้งนปช.ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์มีคำสั่งเปิดทีวีพีเพิลแช ลนั่ลของคนเสื้อแดงด้วย

เราในฐานะกลุ่ม องค์กร เครือข่ายภาคประชาชนที่มีจุดยืนเพื่อสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและเพื่อประชาธิปไตย มีความคิดเห็นและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ และองค์กรที่เกี่ยวข้องดังนี้ คือ

1. เราขอเรียกร้องให้ องค์กรด้านกฎหมายและองค์กรด้านยุติธรรม เช่น สภาทนายความแห่งประเทศไทย สมาคมทนายแห่งประเทศไทย และองค์กรอื่นๆ ตลอดทั้งนักกฎหมาย ทนายความ นักวิชาการด้านกฎหมาย ในฐานะที่มีภาระหน้าที่และเจตนารมณ์ในผดุงความยุติธรรมสังคมไทย สร้างบรรทัดฐานที่เสมอภาคในกระบวนการยุติธรรม ไม่ให้เกิดสองมาตรฐาน ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการผลักดันให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมิใช่ดีเอสไอ เนื่องจากตามหลักของกระบวนการยุติธรรมนั้นต้องมอบตัวคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่ ตำรวจเท่านั้น ตลอดทั้งดีเอสไอ เป็นส่วนหนึ่งของศอฉ. หรือเป็นพวกเดียวกับนายสุเทพ จึงไม่มีความชอบธรรมแต่อย่างใด และมิอาจจะไว้ใจให้ดำเนินคดีเพื่อให้เกิดความยุติธรรมต่อญาติวีรชนไพร่และ สังคมไทยได้

2.เราขอเรียกร้องให้องค์กรสื่อสารมวลชน เช่น สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคเหนือ เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคอีสาน เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคใต้ เครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคกลางและภาคตะวันออก สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ตลอดทั้งนักข่าว นักสื่อสารมวลชน นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน ผู้เคารพสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน โดยเฉพาะเมื่อสี่วันที่ผ่านมา ได้นำเสนอวาระให้มีการปฎิรูปสื่อมวลชนในการปฏิรูปประเทศไทย ต้องแสดงจริยธรรมของนักสื่อสารมวลชน มีความเป็นอิสระ เป็นกลาง มีความรับผิดชอบต่อสังคมไทย และถ้ามีความจริงใจต่อการปฏิรูปสื่ออย่างไม่ลำเอียง มีจิตใจที่เป็นธรรม ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้จากทุกกลุ่มไม่เพียงสื่อของรัฐ หรือสื่ออย่างASTV เท่านั้น ต้องร่วมผลักดันให้รัฐบาลอภิสิทธิ์มีคำสั่งเปิดทีวีพีเพิลแชลนั่ลโดยทันที

3. เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ แสดงความจริงใจในแนวทางปรองดองอย่างไม่มีวาระซ่อนเร้น ไม่มีเลห์เพทุบายต่อการชุมนุมของคนเสื้อแดง และสร้างความยุติธรรมในกระบวนการด้านคดี ตลอดทั้งให้เสรีภาพกับสื่อสารมวลชนทุกกลุ่ม โดยการยอมรับข้อเรียกร้องของนปช.โดยทันที มิใช่สร้างเงื่อนไขเพื่อการปราบปรามคนเสื้อแดงด้วยความรุนแรงอย่างที่ผ่านมา อีก

ลงนามโดย

1. เครือข่ายองค์กรชุมชนแก้ปัญหาที่ดินภาคอีสาน (คอป.อ.)
2. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านอนุรักษ์น้ำเซิน (คอซ.)
3. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านลุ่มน้ำปาว (คอป.)
4. เครือข่ายอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภูค้อ-ภูกระแต จังหวัดเลย
5. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ภาคอีสาน (คอส.)
6. แนวร่วมเกษตรกรภาคอีสาน (นกส.)
7. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ลุ่มน้ำโขง จังหวัดอุบลราชธานี
8. กลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน (กสส.)
9. กลุ่มดงมูลเพื่อการพัฒนา จังหวัดกาฬสินธุ์
10. เครือข่ายอนุรักษ์ภูผาเหล็ก จังหวัดอุดรธานี
11. กลุ่มภูพานเพื่อการพัฒนา จังหวัดสกลนคร
12. เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน จังหวัดชัยภูมิ
13. กลุ่มประชาชนไทยแวงน้อย-แวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น
14. กลุ่มเยาวชนมิตรภาพ จังหวัดขอนแก่น
15. กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์น้ำพรมตอนต้น จังหวัดชัยภูมิ
16. กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ลุ่มน้ำบัง จังหวัดนครพนม
17. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ยโสธร จังหวัดยโสธร
18. สหพันธ์เยาวชนอีสาน (สยส.)
19. แนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือ (นกน.)
20. ชมรมส่งเสริมการเรียนรู้ภาคเหนือตอนล่าง
21. เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู จังหวัดพิษณุโลก
22. เครือข่ายส่งเสริมสิทธิการจัดการทรัพยากรภาคเหนือตอนล่าง (คสปล.)
23. สหพันธ์เยาวชนคลองเตย (สยค.)
24. เครือข่ายองค์กรชุมชนคลองเตย
25. เครือข่ายชุมชนเมืองบ่อนไก่ กทม.
26. กลุ่มประชาธิปไตยเพื่อรัฐสวัสดิการ
27. เครือข่ายอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชุมชนเขลาโคก จังหวัดร้อยเอ็ด
28. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
29.กลุ่มคนรุ่นใหม่ ภาคใต้
30กลุ่มนักศึกษาภาคเหนือเพื่อประชาธิปไตย
31.ชมรมนักข่าวเพื่อ เสรีภาพไทย

Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 5/12/2010 02:55:00 หลังเที่ยง

http://thaienews.blogspot.com/2010/05/31_12.html