“บิ๊กป๊อก” หยุดลอยตัว กองทัพต้องทำหน้าที่ ชาติจะข้ามพ้นวิกฤต!‏

ฟังการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่เสนอให้การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง (อีกแล้วครับท่าน) โดยแสดงความเห็นในการแก้ปัญหาบ้านเมืองอย่างตื้นเขินว่า “ยุบสภาทุกอย่างจบ” ทำให้รู้สึกวังเวงและเศร้าใจอย่างที่สุด

หรือ ว่าเรากำลังจะสิ้นชาติหาความสงบไม่ได้ เพราะ พล.อ.อนุพงษ์ นำกองทัพลอยตัวชิ่งหนีออกจากปัญหา ทั้งๆ ที่กองทัพมีหน้าที่รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์

วันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ก็ยอมรับว่า ชาติไม่สงบเพราะมีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวในม็อบ ใช้ชีวิตคนเสื้อแดงเป็นตัวประกัน ปลิดวิญญาณและลมหายใจของพี่น้องทหารหาญที่ปฏิบัติภารกิจรักษาบ้านเมืองอย่าง โหดเหี้ยมอำมหิต แทนที่ พล.อ.อนุพงษ์ จะกำหนดบทบาทกองทัพให้ชัดเจนว่าจะจัดการกับกองกำลังติดอาวุธนี้อย่างไร

พล.อ.อนุ พงษ์ กลับบอกเพียงว่า ภารกิจทุกอย่างของทหารต้องยุติลงก่อน อ้างเรื่องของความสูญเสีย แต่ไม่มีคำตอบใดๆ ให้สังคมว่า แล้วกองทัพซึ่งเป็นสถาบันหลักในการค้ำชาติ ราชบัลลังก์ จะมีแนวทางดำเนินการเพื่อจัดการกลุ่มผู้ก่อการร้ายเพื่อนำประเทศกลับคืนสู่ ความเป็นปกติอย่างไร

นอกจากโยนทุกอย่างให้กลับไปอยู่ บนบ่าของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องเผชิญกับปัญหาอย่างเดียวดาย

ท่าทีของ พล.อ.อนุพงษ์ คงเป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า ข้อ เรียกร้องที่จะให้ประกาศกฎอัยการศึกมอบอำนาจทุกอย่างให้ทหารเข้าไปจัดการ นั้น ไม่ใช่ อภิสิทธิ์ ไม่กล้าทำ แต่คนที่ไม่กล้า ก็คือ

บิ๊ก ป๊อกแห่งกองทัพไทย

การบริหารสถานการณ์ของ อภิสิทธิ์ ได้ฟังมาว่า มิใช่ว่าเขาขาดความกล้าหาญ หรืออ่อนประสบการณ์จนแก้ปัญหาไม่ได้ แต่มันมีข้อจำกัดที่ล้อมกรอบตัวเขาทำให้กลายสภาพเหมือนคนมีหัวแต่ไร้แขนขา ที่จะขับเคลื่อนเดินหน้า

ทั้งกรณี พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มกำลัง ประคองตัวรอวันเกษียณ

ส่วน ตำรวจไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่ใช่แค่เกียร์ว่างแต่ใส่เกียร์ถอยหลังเลยด้วยซ้ำ ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลก็บีบให้แก้ปัญหาแบบมักง่ายด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 มาตรา

ทั้งๆ ที่ก็รู้กันอยู่เต็มอกว่า มันไม่ใช่คำตอบในการแก้ปัญหาที่แท้จริงให้กับบ้านเมือง

ภาพ ที่คนเสื้อแดงเหิมเกริมกระทำการเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อแป ทุบตีทำร้ายประชาชนทั่วไปที่แสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับ พฤติกรรม ดิบ ถ่อย เถื่อน และต้องการชีวิตปกติสุขกลับคืนมา โดยที่กองทัพชิ่งหนีเอาตัวรอด ตำรวจได้แต่มองตาปริบๆ ปล่อยให้ผู้ต้องหาตามหมายจับอย่าง อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อหังการ์ทำตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐควบคุมตัวกรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท. ไปพิสูจน์ทราบถึงการส่งคลื่นสัญญาณรบกวนทีวีแดง

อะไร กำลังเกิดขึ้นกับบ้านเมืองของเรา

อันธพาลครองเมือง ขณะที่คนดีต้องมุดหัวก้มหน้าอยู่ในบ้านเพราะตกอยู่ในอาณาจักรของความหวาด กลัวกระนั้นหรือ

จะโทษรัฐบาลฝ่ายเดียวคงไม่เป็น ธรรม เพราะ อภิสิทธิ์ สั่งการ มีนโยบายชัดเจน แต่กองทัพไม่ทำหน้าที่ เพราะ พล.อ.อนุพงษ์ เพลย์เซฟ ส่วนนายทหารที่พร้อมทำหน้าที่อย่าง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ.ก็ไม่สามารถฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชาได้

ถ้า คิดแบบเอามันก็คงมีหลายคนเสนอว่า ปลด พล.อ.อนุพงษ์เลย แล้วตั้ง พล.อ.ประยุทธ ขึ้นมาเป็นแม่ทัพแทน แต่มันก็มีปัญหาเดินตามแนวนี้ไม่ได้ เพราะหากปลด พล.อ.อนุพงษ์ ตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเหลืออายุราชการอีก 4 ปี ยาวนานจนกระทั่งจะเป็นเหตุให้นายทหารในกองทัพที่คิดถึงแต่ความเจริญก้าวหน้า มากกว่าชาติบ้านเมือง จะไม่พอใจถึงขั้นอาจมีการปฏิวัติซ้อนขึ้นมาได้

และ ไม่ใช่การปฏิวัติเพื่อนำบ้านเมืองพ้นภัยอันธพาล แต่เป็นการปฏิวัติเพียงเพื่อเปลี่ยนอำนาจในกองทัพ สุดท้ายชาติก็ฉิบหายถอยหลังเข้าคลองโดยไม่มีการสะสางปัญหาใดๆ และอาจไปเพิ่มปัญหาใหม่ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียรุนแรงกว่าเดิม

กล่าว เช่นนี้ไม่ใช้จินตนาการ แต่มันมีร่องรอยให้เห็นชัดถึงรอยปริร้าวในกองทัพ ผ่านเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน การยิงเอ็ม 79 ถล่มไปที่กองกำลังบูรพาพยัคฆ์ที่เข้าปฏิบัติการบริเวณสี่แยกคอกวัวอย่างแม่น ยำเพราะมีการชี้เป้าจนการลอบสังหารเพื่อให้เสื้อแดงล้างแค้นประสบความสำเร็จ

ถ้า ไม่ใช่คนในกองทัพที่ไม่พอใจกับการเติบโตของกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ จนเกรงว่าตัวเองจะหมดโอกาสในการเติบโตทำแล้วใครทำ

ช่าง น่าเศร้าที่เห็นนายทหารระดับนายพันหลายคนของกองทัพไทยเห็นแก่ ประโยชน์ส่วนตน มุ่งผลแต่ความเจริญก้าวหน้าในราชการ จนยอมร่วมมือกับผู้ก่อการร้ายหันอาวุธมาประหัตประหารพี่น้องที่ร่วมถวาย สัตย์ปฏิญาณตนว่าจะ รักษาชาติยิ่งชีพ

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ก็กดกองทัพไว้ไม่ให้ออกมาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น

เมื่อ กองทัพซึ่งเป็นกำลังหลักของบ้านเมืองไม่ยอมทำหน้าที่ ประชาชนอย่างเราๆ ก็คงต้องเป็นกองทัพให้ อภิสิทธิ์ ไม่ใช่ไปรบพุ่งกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายในหมู่เสื้อแดง

แต่ต้องตะโกนสุดเสียงให้ พล.อ.อนุพงษ์ และนายทหารแห่งกองทัพไทยทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่ทิ้งสมรภูมิรบไปกลางคันแบบนี้

เพราะ ถ้าประชาชนไม่ช่วย อภิสิทธิ์ ก็คงยืนระยะได้อีกไม่นาน เพราะไม่สามารถกุมสภาพบ้านเมืองได้ และกำลังอยู่ในภาวะใกล้เคียงกับรัฐล้มเหลวเข้าไปทุกที สุดท้ายก็คงต้อง ยุบสภา หรือ ไม่ก็ลาออก เนื่องจากขาดมือไม้ในการดึงชาติออกจากหุบเหวแห่งหายนะ

ใครถนัดในโลกไซเบอร์ ก็ช่วยกันออกเสียงเรียกร้องให้กองทัพออกมารักษาชาติ บ้านเมือง

ใครมีเครือข่าย อะไรก็ช่วยกันทำ ติดธงชาติไทยที่รถหรือหน้า บ้านเพื่อให้ พล.อ.อนุพงษ์ ที่ขอรอดูกระแสสังคมก่อนจึงจะบอกได้ว่า กองทัพจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ได้เห็นว่าสังคมไทยอยากให้พวกคุณทำหน้าที่

เราต้องร่วมกันตะโกนให้ พล.อ.อนุพงษ์ได้ยินว่า “กองทัพต้องจัดการอันธพาลครองเมือง เสื้อแดงกลับบ้านคืนภาวะปกติสุขให้กับคนไทย”

ทำ เช่นนี้ไม่ใช่เพื่อให้ อภิสิทธิ์ อยู่ในอำนาจรัฐต่อ แต่เราต้องทำให้ประเทศชาติของเราผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้